ไตและการดูแลไตด้วย ปู่จิงตัน(PUJINGTUN)







                ไตและการดูแลไตด้วย ปู่จิงตัน(PUJINGTUN)


     ไต (Kidney) เป็นอวัยวะที่อยู่ส่วนล่างของช่องท้อง มีสองข้าง คือซ้ายและขวา รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดง ยาวประมาณ 10-13 เซนติเมตร กว้าง 6 เซนติเมตร หนา 3 เซนติเมตร มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 300 กรัม มีต่อมหมวกไต (Adrenal gland) อยู่ด้านบนของไตทั้งสองข้าง มีชั้นไขมันสองชั้นห่อหุ้มอยู่ ภายในไตนั้นจะมี 2 ชั้น คือ ชั้นนอก เรียกว่า คอร์เทกซ์ (cortex) ส่วนนี้มีสีแดง เพราะมีโกบเมรูลัสอยู่ ขณะที่ชั้นใน จะเรียกว่า เมดูลลา (medulla) ส่วนนี้มีสีขาว ส่วนใหญ่ประกอบด้วยท่อหน่วยไต ส่วนของเมดูลลาที่ยื่นเข้าไปจรดกับโพรงที่ติดกับหลอดไตเรียกว่า พาพิลลา (papilla) และเรียกโพรงนี้ว่า กรวยไต (pelvis)
         
http://www.mirworldwide.com/product_pujintun.php?language=&m=5973

           หากถามว่า "ไต" เป็นอวัยวะของระบบใดในร่างกายมนุษย์ ก็ต้องตอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "ระบบทางเดินปัสสาวะ" เพราะมีหน้าที่กรองเอาของเสีย น้ำ และเกลือแร่ส่วนเกินจากเลือดที่ไหลผ่านไปไปสร้างปัสสาวะเมื่อผลิตเสร็จแล้วก็จะส่งผ่านไปทางท่อไต นำไปเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เมื่อมีปริมาณปัสสาวะมากพอ เราจึงรู้สึกปวดปัสสาวะ อยากจะถ่ายปัสสาวะขับของเสียออกนั่นเอง 

http://www.mirworldwide.com/product_pujintun.php?language=&m=5973
          อย่างที่ทราบแล้วว่า หน้าที่หลัก ๆ ของไตก็คือ กรองของเสียออกจากเลือด และขับออกพร้อมกับน้ำในรูปของปัสสาวะ แต่นอกจากหน้าที่ในระบบทางเดินปัสสาวะแล้ว ไต ยังมีหน้าที่ช่วยรักษาความปกติของน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย สร้างสารที่ควบคุมความดันโลหิต และสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น จะสังเกตได้ว่า หากไตทำงานน้อยลงมักเกิดปัญหาความดันโลหิตสูงและโลหิตจางร่วมด้วย

      ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต มีดังนี้
          1. กรรมพันธุ์ โรคไตบางชนิดเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ เช่น โรคไตเป็นถุงน้ำ (Polycystic Kidney Disease) ที่มีทั้งแบบที่เกิดกับทารก ซึ่งมักจะทำให้เด็กเสียชีวิตตั้งแต่เกิด และแบบที่เกิดกับผู้ใหญ่ ที่จะพบความผิดปกติเมื่ออายุ 20-30 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม กรรมพันธุ์ไม่ใช่สาเหตุหลัก และผู้ป่วยโรคไตจากกรรมพันธุ์ก็มีน้อยมาก แต่ถ้ามีใครคนหนึ่งในครอบครัวเป็นโรคไตขึ้นมา โอกาสที่เครือญาติพี่น้องจะเป็นด้วยก็มีสูงถึง 90% จึงควรไปตรวจสุขภาพกันยกครอบครัว 
          2. โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงจะส่งผลกระทบต่อไตด้วย หากเป็นนาน ๆ ไตก็เสื่อมลง จนถึงขั้นไตวายเรื้อรัง ซึ่งเชื่อไหมว่าผู้ที่เป็นไตวายเรื้อรัง ราว 30-50%
ล้วนเกิดจากมีความดันโลหิตสูงทั้งสิ้น และในทางตรงข้าม คนที่เป็นโรคไตบางชนิดก็อาจเป็นโรคความดันโลหิตสูงตามมาเช่นกัน



          3. โรคเบาหวาน ถือเป็นสาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายราว ๆ 30% เพราะผู้ที่เป็นเบาหวานมานานแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่หลอดเลือดของไต ทำให้ไข่ขาวออกมาในปัสสาวะ นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานยังติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เกิดกรวยไตอักเสบได้ หากเป็นบ่อย ๆ นาน ๆ เข้า ก็ทำให้ไตอักเสบ ไตวาย แล้วยังมีผลทำให้เกิดความดันโลหิตสูงตามมาด้วย
          4. ความอ้วน 
เพราะคนอ้วนจะมีเมตาบอลิซึมสูงกว่าคนปกติ ทำให้เกิดของเสียต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น ไต ที่เป็นอวัยวะกรองของเสียก็จะทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย



         5. อายุ เมื่อคนเราแก่ตัวขึ้น สังขารร่างกายก็ร่วงโรยไปตามวัย เช่นเดียวกับ ไต ที่จะเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 35 ปี เท่ากับว่ายิ่งอายุมากขึ้น ไตก็จะยิ่งเสื่อมตามอายุลงไปด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพศชายที่มีโอกาสต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น ทำให้ทางเดินปัสสาวะอุดตัน ส่งผลกระทบต่อไตได้ 
          6. อาหาร อาหารหลายชนิดที่หากรับประทานเข้าไปมาก ๆ จะยิ่งเป็นอันตรายต่อไต โดยเฉพาะอาหารรสเค็มจัดที่จะไปทำให้ความดันโลหิตสูง แล้วส่งผลกระทบต่อไปที่ไต รวมทั้งอาหารกลุ่มโปรตีนที่มีงานวิจัยพบว่า เนื้อสัตว์ถือเป็นของเสียในร่างกาย หากทานเข้าไปมาก ๆ จะมีของเสียเหลือตกค้างในร่างกายมาก ทำให้ไตที่มีหน้าที่กรองของเสียทำงานหนักมากขึ้น แต่ถ้าเป็นโปรตีนจากเนื้อปลา หรือไข่ขาว นั้นสามารถทานได้ เพราะเป็นโปรตีนคุณภาพสูงและย่อยง่าย
   


       7. ยา ยาบางชนิดที่ไม่ส่งผลดีต่อไตนัก เช่น ยาแก้ข้อกระดูกอักเสบ (พวก NSAID) ที่ทำให้เกิดไตวายได้ รวมทั้งสารทึบรังสีบางชนิดที่ใช้ฉีดผู้ป่วยเวลาตรวจทางเอกซเรย์ก็มีผลให้ไตวายได้เช่นกัน ดังนั้น หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
 


      8. อาชีพและอุบัติเหตุ คนบางอาชีพมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไตได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น นักมวย ที่อาจถูกเตะต่อยบริเวณไต รวมทั้งคนที่ทำงานในโรงงาน ก็อาจได้รับสารพิษสะสมในไตมานาน 

ปู่จิงตัน  มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ลดอาการที่เกิดจากภาวะไตอ่อนแอ ช่วยควบคุมและเพิ่มสารจำเป็นในร่างกาย บำรุงสายตา และช่วยไม่ให้ผมหงอกก่อนวัย มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่มีภาวะไตอ่อนแอ ปัสสาวะบ่อยครั้ง ผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงเป็นเบาหวาน ช่วยชะลอวัย และให้มีอายุยืนยาวแข็งแรง 

วิธีรับประทาน
      เดือนแรก ก่อนอาหารเช้า 4 แคปซูล ก่อนอาหารเย็น 4 แคปซูล สำหรับผู้ที่ปัสสาวะบ่อยตอนกลาคืน มากกว่า 1 ครั้ง/คืน หรือมีอาการเมื่อยเอว เข่าอ่อน หลั่งเร็ว
      ถ้าอาการไม่มาก ในเดือนต่อไป กินก่อนอาหารเช้า 2 แคปซูล ก่อนอาหารเย็น 2 แคปซูล
   กินเพื่อรักษาสุขภาพ  ก่อนอาหารเช้าหารเย็น เม็ด




    ผลิตภัณฑ์ ปู่จิงตัน(PUJINGTUN) สามารถแก้ปัญหา โรคไต ไตวาย อย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,000 บาท
   อย. เลขที่ 13-1-02950-1-0036
ดูรายระเอียดได้ที่ http://pujingtunmirvalai.blogspot.com/ 
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ จุฑาชลัท อินทวะระ    โทร.082-0571981 ,  097-3983248
ID Line : valai1981

     อีเมล์ : kprimss@gmail.com

























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น